ในตอนท้ายสุดนี้
ก็ฃอหยิบยกเอาเรื่องการtuning
เหยื่อมิโนมาสำหรับนักตกปลาที่ต้องการจะปรับแต่งเหยื่อให้เป็นเหยื่อเฉพาะตัวก็แล้วกัน
การปรับแต่งเหยื่อมิโนนี้ในเบื้องแรก
เอาอย่างง่ายที่สุดกันก่อน
ก็คือการปรับระดับความถ่วงจำเพาะของตัวเหยื่อ
ที่เป็นที่นิยมของนักตกปลาชาวญี่ปุ่นเลยก็คือการแปะแผ่นตะกั่วเพิ่มน้ำหนัก
เพื่อปรับจากเหยื่อลอยให้เป็นเหยื่อแบบไม่ลอยไม่จม
สิ่งที่สำคัญก็คือ
การแปะตะกั่วนี้ต้องคำนึงถึงความบาลานซ์ของเหยื่อด้วย
โดยมากการแปะตะกั่วจะแปะกัน
2 จุด คือ
ที่ใต้ท้องเหยื่อหลังเบ็ดตัวท้อง
1 จุด
และก็ที่หลังลิ้นอีก 1
จุด
ที่ติดอย่างนี้ก็เพื่อต้องการให้เหยื่อแขวนลอยในลักษณะขนานเลียนแบบปลาเหยื่อในธรรมชาตินั่นเอง
แต่สำหรับนักตกปลาที่ไม่ชอบความยุ่งยากในเรื่องการไปหาตะกั่วแผ่น
การเปลี่ยนตัวเบ็ดที่หนาขึ้นและหนักขึ้นก็สามารถปรับความถ่วงจำเพาะของเหยื่อมิโนได้เช่นกัน
ภาพจาก www.bassdozerstore.com |
การปรับแต่งอีกแบบที่เป็นระดับแอดวานซ์ขึ้นไปอีกก็คือการปรับแต่งลิ้นของเหยื่อ
การปรับแต่งลักษณะนี้โดยมากเป็นไปอย่างปรับแล้วปรับเลย
คือจะทำให้เหยื่อตัวนั้นก็คืนสภาพเก่าอีกได้ยาก
วิธีการที่เห็นก็มีตั้งแต่ตะไบลิ้นทิ้งไป
กรอลิ้นในสั้นลง
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักตกปลาคนนั้นๆ
แต่โดยส่วนตัวผมแล้ว
ผมจะแต่งลิ้นเหยื่อก็ต่อเมื่อเหยื่อนั้นได้รับความเสียหายมาก่อน
เช่นอาจจะเกิดอุบัติเหตุลิ้นหัก
การกรอลิ้นก็อาจจะทำให้เหยื่อตัวนั้นสามารถนำกลับมาใช้อีกได้
มี
4
ข้อใหญ่ที่จะทำให้นักตกปลาสามารถใช้เหยื่อมิโนได้อย่างเชี่ยวชาญก็คือ
ต้องหมั่นตี
หรือใช้เหยื่อมิโนให้บ่อย
เพราะการใช้บ่อยนี้จะทำให้เราได้รู้จักแอ็คฌั่นของเหยื่อ
การควบคุมความเร็วการกรอ
การกะระยะเผื่อหากตกในที่มีกระแสน้ำ
หรือได้เรียนรู้สัมผัสที่เกิดขึ้นกับเหยื่อส่งผ่านสายขึ้นมาถึงตัวนักตกปลา
สิ่งเหล่านี้จะเรียนรู้ได้ก็ต่อเมื่อนักตกปลาได้ใช้เหยื่อนั้นจนเกิดความคุ้นชิน
จึงจะสามารถควบคุมเหยื่อให้เรียร้องความสนใจจากปลาล่าเหยื่อได้เต็มสมรรถภาพของตัวเหยื่อ
สังเกตการทำงานของตัวเหยื่อ
ข้อนี้สืบเนื่องมาจากข้อที่แล้ว
คือนอกจากหมั่นใช้หมั่นตีแล้ว
นักตกปลาต้องหมั่นสังเกตด้วยว่า
เมื่อเราใช้เหยื่อตัวนี้กับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ
เช่น ชุดอุปกรณ์ไหน ขนาดสายเท่าไหร่
สภาพน้ำแบบไหน (น้ำนิ่ง-น้ำไหล,
น้ำใส-น้ำขุ่น)
แล้ว เหยื่อที่ใช้นั้นเกิดแอ็คฌั่นอะไร
เรียกร้องความสนใจจากปลาล่าเหยื่อได้ดีแค่ไหน
ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อใช้ในหมายที่มีสภาพน้ำใสแล้ว
สิ่งที่อยากให้สังเกตมากที่สุดก็คือ
ปลาฉวยเหยื่อด้วยแอ็คฌั่นอย่างไร
กัดตอนหยุด หรือว่ากัดตอนกรอ
กัดตอนเหยื่อกำลังลอยขึ้น
หรือกัดตอนเหยื่อกำลังจม
สิ่งเหล่านี้หากนักตกปลาได้สังเกตและรวบรวมไว้เป็นข้อมูลพื้นฐาน
แล้วนำมาประมวลเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกเหยื่อในครั้งต่อไป
ฝึกฝนการใช้เทคนิคกับเหยื่อ
ดังที่กล่าวพูดถึงมาแล้วในเบื้องต้น
เทคนิคต่างๆเหล่านี้นักตกปลาควรเรียนรู้จะจดจำไว้
ปลาก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป
มีความอยากรู้อยากเห็น
และความสามารถในการจดจำ
เทคนิคเดิมๆบางครั้งก็ไม่สามารถเร้าให้ปลาล่าเหยื่อเกิดความสนใจในตัวเหยื่อได้เหมือนกัน
ดังนั้นการสร้างแอ็คฌั่นที่แตกต่างก็ควรจะฝึกฝนใช้บ้าง
เทคนิคหนึ่งที่นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้พูดถึงในตอนนี้เลยก็คือการหย่อนสาย
ด้วยเทคนิคนี้เหยื่อจะเกิดการเคลื่อนไหวที่แตกต่างออกไปอีกแบบหนึ่ง
ในเหยื่อที่มีลิ้นเมื่อกรอๆแล้วเราลดคันลงหย่อนสายให้เล็กน้อย
เหยื่อจะเกิดการถอยตัวเล็กน้อย
ถ้าเป็นเหยื่อแบบไม่ลอยไม่จม
เหยื่อจะชะงักกึ๊ก
ปลาล่าเหยื่ออาจจะฉวยเหยื่อในจังหวะนี้ก็เป็นไปได้
แต่มีข้อควรระวังอยู่อย่างสำหรับเทคนิคนี้ก็คือ
หากหย่อนสายเร็วเกินไป
สายอาจจะขึ้นไปพันกับทิปทอป
แล้วเมื่อปลาฉวยคันก็อาจจะหักได้เช่นกัน
สุดท้ายเลยที่จะฝากไว้สำหรับศาสตร์ของการใช้เหยื่อมิโนนี้ก็คือ
การกรอสายให้ช้าครับ
การกรอเร็วนั้นเหยื่อจะเกิดคลื่นเสียง
แต่การกรอช้าจะทำให้ปลาล่าเหยื่อระบุตำแหน่งของเหยื่อได้
มีหลายหนเหมือนกันที่การกรอแล้วหยุดไม่ได้ผล
หรือการทวิตช์แอนด์เจิร์คก็บอดสนิท
ถึงตอนนี้แหละ การกรอช้าๆ
ช้ามากๆ ก็อาจจะทำให้ปลาไม่ลังเลที่จะเข้ากัดก็เป็นได้
ทดลองดูนะครับ
ฃอให้สนุกกับการใช้เหยื่อมิโนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น