ที่จริงผมได้เคยเผยแพร่บทความที่ว่าด้วยเรื่องคล้ายๆกันนี้ไปแล้วน่าจะมากกว่า 1 ครั้งไปแล้ว บนเวบบอร์ดของเวบตกปลาแห่งใดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นการตอบกระทู้ของใฅรที่ตั้งไว้ก็ไม่แน่ใจ แล้วก็หาต้นฉบับไม่เจอเสียด้วย จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้เผยแพร่ทัศนะคติของการตกปลาแม่(หรือพ่อ)ครอกอีกครั้งที่ตรงนี้ไว้ก็แล้วกัน
|
ตัวนี้ผลงานของเพื่อนรัก ตกแล้วปล่อยกลับไปเลี้ยงลูกครับ |
ด้วยที่ทุกวันนี้ ในกระทู้หน้าเวบบอร์ดของเวบไซต์ตกปลาต่างๆ มักมีภาพเพื่อนๆที่หิ้วแม่(หรือพ่อ)ครอกตัวโตๆมาให้เราได้ดูได้ชมกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าจะมีเสียงต่อท้ายกระทู้นั้นๆออกมาเป็น 2 กระแส พวกหนึ่งก็จะแสดงความชื่นชม และอีกพวกหนึ่งก็จะออกในเชิงเห็นแย้งและอาจจะติงนิดๆ ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่เมื่อเรายืนบนเวทีสาธารณะแล้วก็ต้องยอมรับได้ทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ นั่นก็ถือเป็นสิทธิในการสนับสนุนหรือสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่ติดตามกระทู้นั้น เว้นเสียแต่เวบนั้นจะมีกฏกติกาห้ามวิจารณ์ ซึ่งก็ถือเป็นสิทธิของผู้บริหารเวบที่สามารถวางกรอบกติกาให้ผู้ที่เข้าชมเข้าใช้พื้นที่ต้องปฏิบัติตาม กฏเวบ
ทีนี้ มาว่าด้วยเรื่องการตกปลาแม่ครอกกัน ผมเองไม่ปฏิเสธว่า ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่หากสบโอกาสเจอะเจอกับฝูงลูกครอก อย่างน้อยก็จะโยนเหยื่อเข้าไปลองดูเผื่อว่าจะมีโอกาสได้เย่อกับปลาพ่อปลาแม่สักครั้งหนึ่ง
ที่จริงด้วยบรรทัดฐานของกฏหมายบ้านเมือง การตกปลาแม่ครอกไม่ได้ถือเป็นความผิดแต่อย่างใด ดังนั้นในแง่ทางสังคมแล้ว การตกปลาแม่ครอกก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ผิดอะไร แต่ในบรรทัดฐานทางจริยธรรมจะถือเป็นเรื่องที่ถูกควรหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่ว่ามองมาจากมุมใด
หากมองจากมุมของมนุษยธรรม คือ เอาความรู้สึกแบบมนุษย์ลงไปใส่ไว้ในปลา เราก็จะรู้สึกว่า การตกปลาครอกเป็นเรื่องที่น่าสังเวช การที่ปลาพ่อปลาแม่เข้าไล่กัดเหยื่อด้วยสัญชาตญาณของการปกป้องเผ่าพันธุ์ ทำให้ต้องกลายเป็นเป้าหมายของผู้ตกปลา ซ้ำร้ายฝูงปลาลูกครอกที่ขาดพ่อแม่อนุบาลฝูงก็จะตกเป็นเหยื่อของปลาอื่นไปในที่สุด ด้วยมุมมองในแง่นี้ ก็ถือว่าเรื่องนี้เป็นโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง
ในอีกมุมมองหนึ่ง เมื่อมองด้วยแง่ของอรรถประโยชน์ การตกปลาแม่ครอกถือว่าเป็นเกมส์ที่สมประโยชน์ เพราะว่า เรารู้ได้ง่ายว่าปลาใหญ่อยู่ที่ไหน(เห็นฝูงครอกชัดเจน) เป็นเกมส์ที่กัดเหยื่ออย่างเร้าใจ ผลงานที่ได้มักเป็นปลาตัวใหญ่ เป็นรูปถ่ายที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ตก เมื่อมองในแง่นี้จะเห็นได้ว่ามีเหตุผลที่จะตกปลาแม่ครอกพอควร แต่ก็มีทางแยกของความคิดต่อไปอีกว่า เมื่อได้ตัวปลาพ่อปลาแม่มาแล้ว วิธีการจัดการตรงนี้ ยังแบ่งออกเป็นอีก 2 สาย สายหนึ่งคือตกแล้วเก็บ กับอีกสายหนึ่ง ตกแล้วปล่อย
ในสายที่ตกแล้วเก็บ ก็จะมีเหตุผลอยู่ว่า ชะโดเป็นปลาที่มีนิสัยดุร้าย การตกปลาครอกจึงเป็นการจัดการควบคุมปริมาณไม่ให้ชะโดแพร่พันธุ์จนมากเกินไป เป็นต้น
ส่วนในสายที่ตกแล้วปล่อย ก็จะมีเหตุผลว่า ตกแล้วปล่อยเพื่อที่จะให้ปลาพ่อปลาแม่นั้นเข็ดเบ็ด แล้วจะได้ลดโอกาสที่ปลาพ่อปลาแม่นี้ไปกัดติดเบ็ดของพวกที่ตกแล้วเก็บ เป็นต้น
นอกจากตัวอย่างข้างต้น การตกปลาแม่ครอกก็ยังมีมุมมองอื่นๆอีกที่จะเป็นตัวตัดสินใจตกหรือไม่ เช่น ตกไปขาย ซึ่งในกรณีนี้หากเป็นผู้ที่ทำมาหากิน ใช้รายได้ที่มาจากการขายปลาเพื่อยังชีพแล้ว การตกปลาแม่ครอกขายก็เป็นเรื่องที่น่ายอมรับ แต่ถ้าหากบอกว่าต่อให้เจอแม่ครอกก็ไม่ตก เพราะการตกปลาอย่างง่ายแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าภาคภูมิใจ อย่างนี้ก็ถือเป็นจุดยืนทางความคิดของนักตกปลาผู้นั้น
สิ่งสำคัญที่สุดที่เขียนมาถึงตรงนี้ก็คือ อยากให้มีความเข้าใจเรื่องการตกปลาแม่ครอกว่า มันมีมุมมองประกอบที่กว้างขวางมาก นักตกปลาที่แท้จริงควรเปิดใจให้กว้าง ยอมรับเหตุผลอย่างรอบด้าน ลองนึกดูว่า เมื่อวันที่เราออกไปตกปลาภาคสนาม แล้วเจอแต่ฝูงปลาครอก วันนั้นตัวเราจะทำอย่างไร
โดยส่วนตัวผม ผมเป็นประเภทที่ไม่ถึงกับขวนขวายหาครอกตก แต่ก็ไม่ถึงกับปฏิเสธว่าเมื่อเจอครอกแล้วจะไม่ตกอย่างเด็ดขาด บางครั้งก็ผ่านเลยไม่ยุ่งกับครอก แต่บางครั้งก็ลองสักหน่อยเหมือนอย่างที่บอกไปแล้ว บ่อยครั้งที่ตกได้ตัวแล้วก็ปล่อยกลับไปเลี้ยงลูก แต่ก็มีบ้างที่ตกแล้วให้คนพายเรือเอาไปขายเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาวะแวดล้อม
ผมต้องขอย้ำอีกครั้งว่า บทความนี้เป็นเพียง “ทัศนะคติของ(ผมที่มีต่อ)การตกปลาแม่ครอก” หาได้ถือเป็นข้อชี้ขาดหรือเป็นบรรทัดฐานแต่อย่างไรไม่ หากเพียงแต่เพื่อนนักตกปลาคนใดเห็นพ้อง หรือจะเห็นแย้งกับบทความนี้ ผมก็ยินดีขอรับฟังคำวิจารณ์เหล่านั้นด้วยความยินดี
สำนึกดี ประพฤติดี ย่อมเกิดผลพวงที่ดี